http://uranian.igetweb.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com
 

 หน้าแรก

 หลักสูตรศึกษา

 บทความน่ารู้

 เว็บบอร์ด-กระทู้

 Chat & Live online

 ติดต่อเรา

สถิติ

เปิดเว็บ02/09/2009
อัพเดท10/08/2016
ผู้เข้าชม41,952
เปิดเพจ62,872

กำเนิดยูเรเนี่ยน

พื้นฐานโหราศาสตร์

นิสัยราศี

iGetWeb.com
AdsOne.com

ปรัชญามูลฐาน

ปรัชญามูลฐานหรือสมาการแห่งจักรวาล

           

การค้นคว้าเพื่อบุกเบิกวิชาโหราศาสตร์นั้น ตามปกตินักโหราศาสตร์จะใช้ปรัชญานำ แล้วตามด้วยวิชาดาราศาสตร์หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ วิเคราะห์ธรรมชาติให้ถ่องแท้เสียก่อนโดยอาศัยความรอบรู้ทางปรัชญา  แล้วจึงนำมาเทียบเคียงกับปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์โดยอาศัยหลักการอุปมา ปรัชญาจึงเป็นกุญแจดอกแรกที่ไขไปสู่ความเร้นลับต่างๆที่แฝงอยู่ในโลกอันมืดสนิทนี้

มีหลักปรัชญาที่เป็นปรัชญาพื้นฐานที่นักโหราศาสตร์ทุกคนต้องรู้ เพราะถือเป็นรากฐานที่สำคัญของกฎการพยากรณ์จำนวนไม่น้อย ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการนำไปสู่การไขความจริงทั้งหลายที่เราอยากรู้ ปรัชญามูลเป็นสมาการแห่งจักรวาลมีอยู่ 2 ประการ คือ

1. อาตมัน = ปรมาตมัน (Microcosm & Macrocosm)

อธิบายขยายความได้ดังนี้...

อันจักรวาลของเรานี้ย่อมมีสภาพเป็นสิ่งมีชีวิตซึ่งมีความใหญ่โตมโหฬารอันหนึ่ง ส่วนทุกส่วนในจักรวาลล้วนมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน

จักรวาล คือ ปรมาตมัน หรือ มหาพิภพ

ส่วนมนุษย์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลนั้น คือ อาตมัน หรือ จุลพิภพ

อาตมันเป็นส่วนหนึ่งของปรมาตมันหรือจักรวาล ทุกอาตมันย่อมจะมีความเป็นไปตามกฎอันเดียวกัน เป็นไปในแนวเดียวกันหรือละม้ายคล้ายกัน

ด้วยหลักปรัชญาข้อนี้เองที่เป็นที่มาของคำกล่าวของท่านเฮอร์เมส ตริสเมจิสโตส ที่ว่า สิ่งที่อยู่ข้างบนก็เหมือนสิ่งข้างล่าง สิ่งที่อยู่ข้างล่างก็เหมือนกับสิ่งข้างบนทำให้สิ่งๆหนึ่งผิดแปลกไป (As above, so below)” เราสามารถหยั่งรู้ถึงสิ่งทั้งหลายในจักรวาลนี้ด้วยกฎข้อนี้ พร้อมๆกับอาศัยหลักอุปมา อันเป็น การอุปมาแห่งสวรรค์ เป็นกฎแห่งจักรวาลที่ควบคุมสรรพสิ่งทั้งหลาย หากผู้ใดรู้ส่วนหนึ่งของจักรวาลได้ ผู้นั้นย่อมรู้ส่วนที่เหลือโดยอาศัยหลักการอุปมา

2. อดีต ปัจจุบัน อนาคต ล้วนเป็นสิ่งเดียวกัน

อธิบายได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต โดยหลักการอุปมาแล้วจะเหมือนกันสนิทกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ดังนั้น อดีต ปัจจุบัน อนาคต ล้วนเป็นสิ่งเดียวกัน เวลาล้วนไม่มีความหมาย เพราะคิดๆดูแล้ว เวลาเป็นเพียงสิ่งที่สมมุติขึ้น ปัจจุบันจะทรงอยู่เพียงชั่วขณะหนึ่ง และผ่านเลยไปเป็นอดีต และพุ่งเข้าหาอนาคต อนาคตก็จะกลายเป็นปัจจุบันและเป็นอดีตในไม่ช้า เป็นวัฏจักรเช่นนี้เรื่อยไป

เทพผู้สร้างโลกมิได้รับรู้ในความเป็นอดีตและอนาคตแต่ประการใด แต่พระองค์เป็นผู้ให้สิ่งทั้งหลายมาเกิดชีวิตละหนึ่งชาติภายใต้กฎเกณฑ์ต่างๆที่ควบคุมทั้งปรมาตมันและอาตมัน ชีวิตทุกชีวิตจะมีพรหมลิขิตชีวิตเอาไว้ เหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นล้วนถูกกำหนดและลิขิตล่วงหน้าไว้ชั่วกัปชั่วกัลป

จะเห็นได้ว่าหลักปรัชญาข้อนี้ สอดคล้องกับคำสอนทางศาสนาพุทธที่ว่า ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วทุกอย่างจะดีเอง นั่นคือ ถ้าเราสร้างกรรมปัจจุบันให้ดี กรรมนี้จะเป็นอดีตในไม่ช้า เมื่อถึงวงรอบที่เหมาะสม เหตุการณ์ดังกล่าวก็จะกลับมาซ้ำรอบอีกครั้ง ซึ่งวงรอบต่างๆมีทั้งวงรอบของวัน ของเดือน ของปี ของชีวิต หลักปรัชญาข้อนี้จึงถือเป็นกุญแจแม่บทที่สำคัญในการดำเนินชีวิตให้เกิดผลดีหรือมีประสิทธิภาพที่สุด

view
view