http://uranian.igetweb.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com
 

 หน้าแรก

 หลักสูตรศึกษา

 บทความน่ารู้

 เว็บบอร์ด-กระทู้

 Chat & Live online

 ติดต่อเรา

สถิติ

เปิดเว็บ02/09/2009
อัพเดท10/08/2016
ผู้เข้าชม41,782
เปิดเพจ62,620

กำเนิดยูเรเนี่ยน

พื้นฐานโหราศาสตร์

นิสัยราศี

iGetWeb.com
AdsOne.com

ปรัชญาของจักรราศี

ปรัชญาของจักรราศีทั้งสิบสอง

 

            นักโหราศาสตร์สามารถตีความตามอิทธิพลของจักรราศีหรือท้องฟ้าหรือปรมาตมัน โดยอาศัยการเทียบเคียงตำแหน่งการโคจรของดวงอาทิตย์กับความเป็นไปในธรรมชาติเป็นระยะ เนื่องจากอาทิตย์เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตดำรงอยู่ได้ ความหมายอาทิตย์จริงเทียบเคียงได้กับ ชีวิต โดยอุปมา ดังนั้นจักรราศีจึงมีธรรมชาติหรือความหมายที่สอดคล้องกับสรรพสิ่งบนโลก นั่นคือ มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย มีความเป็นอนิจจัง หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงเป็นวัฏจักรเรื่อยไป

          นักโหราศาสตร์ได้พยายามจัดแบ่งราศีให้สอดคล้องกับธรรมชาติบนโลก จนในที่สุดพบว่าการแบ่งจักรราศีเป็น 12 ราศี มีความสอดคล้องกับจังหวะชีวิตมากที่สุด นั่นหมายความว่า ในเมื่อท้องฟ้ามี 12 ราศีหรือ 12 หมวดหมู่ ทุกสรรพสิ่งบนโลกย่อมแบ่งเป็น 12 หมวดหมู่ด้วยเช่นกันและในทำนองเดียวกัน ถ้าเราเข้าถึงอิทธิพลของความหมายของจักรราศีมากขึ้นเท่าใด เราก็จะรู้ถึงความเป็นไปของทุกสรรพสิ่งในโลกมากเท่านั้น ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

            ธรรมชาติของจักรราศี เริ่มจากราศีเมษ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวงรอบของธรรมชาติ นั่นคือการเกิด การเริ่มต้น เมื่อเกิดมาแล้ว ย่อมต้องมีการกินหรือการสะสมในรูปแบบต่างๆ ธรรมชาติของการสะสม เป็นธรรมชาติของราศีพฤษภ

            พัฒนาการขั้นต่อไปคือ การติดต่อกับสิ่งแวดล้อมที่ใกล้ชิด สัตว์ปีกจะเริ่มหัดบิน มนุษย์ก็จะเริ่มหัดคลาน หัดเดิน หัดพูด รวมถึงการศึกษาหาความรู้ต่างๆนี่คือธรรมชาติของ ราศีมิถุน

            เมื่อผ่านขั้นตอนเรียนรู้มาแล้ว เขาก็ย่อมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร สิ่งแรกที่มนุษย์รู้จักก็คือบ้าน บิดา มารดา ขณะเดียวกันก็จะเกิดสัญชาตญาณในการอาย การปกป้องตัว ธรรมชาติจะเริ่มปลูกฝังอารมณ์ให้แก่เขา เด็กจะเริ่มหยุดร้องรู้จักปกปิด รู้จักอาย ต้นไม้จะเติมไปด้วยกิ่งก้านสาขาอันหนาทึบ ทั้งหลายเหล่านี้เป็นอิทธิพลของราศีกรกฎ

            สำหรับราศีสิงห์ สอดคล้องกับธรรมชาติ คือ เป็นระยะที่ธรรมชาติต้องการจะเอาชนะ มนุษย์จะเต็มไปด้วยความต้องการ ความปรารถนา การไม่ยอมแพ้ใคร จะเกิดความรักความหวงแหนขึ้น อิทธิพลของราศีสิงห์ก็จะพัฒนาตัวเองไปสู่ราศีกันย์ เพื่อความอยู่รอดก็ต้องทำงานเลี้ยงตนเอง เป็นการตอบสนองการต้องการเอาชนะหรือการไม่ยอมแพ้ใครนั่นเอง

            เมื่อมีการทำงานเกิดขึ้น ย่อมมีโอกาสได้ร่วมงานกับผู้อื่น มีหุ้นส่วน บริษัท ผู้ร่วมคิดเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นจังหวะที่มีโอกาสพบคู่ครอง ธรรมชาติสอนให้รู้จักการพบกันครึ่งทาง การสร้างเสน่ห์ การเอาอกเอาใจผู้อื่น มีการสังคมเกิดขึ้น เป็นจังหวะของการพบคู่ครอง มีคู่ใจ ราศีตุลย์จึงต้องควบคุมอิทธิเหล่านี้ไว้ทั้งสิ้น

            ราศีพิจิกเทียบได้กับคนที่เพิ่งแต่งงานใหม่ เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตมีธรรมชาติลึกลับ ต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ต้องรู้จักเสียสละ ชีวิตเต็มไปด้วยความเสี่ยง ผจญทั้งโรคภัยไข้เจ็บและความตาย ราศีพิจิกจึงเป็นราศีของนักสู้โดยแท้จริง

            หลังจากผ่านเป็นผ่านตาย ผ่านร้อนผ่านหนาวจากราศีพิจิกมาแล้ว ธรรมชาติก็จะให้รางวัลแก่เขาด้วยสิ่งที่เรียกว่าปัญญา อุดมการณ์ มีการหันมาสนใจปรัชญา ศาสนามีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความคิดอ่านกว้างขวางกว่าเดิม เป็นการเรียนรู้อีกขั้นหนึ่งของธรรมชาติ ไม่ใช่การเรียนรู้ใกล้(ราศีมิถุน) แต่เป็นการรู้ไกล

            เมื่อสู่อิทธิพลราศีมังกร ก็จะเป็นเรื่องของการบรรลุถึงเป้าหมายของชีวิตทางด้านนอก แต่พัฒนาการทางด้านในยังคงดำเนินต่อไป มนุษย์จะเริ่มหมดครับรู้สึกทางวัตถุ ความคิดด้านอุดมการณ์จะพัฒนาต่อเนื่องไปมากขึ้น สิ่งมีชีวิตเริ่มแก่ชราและรู้ซึ้งถึงความสันโดษ ความโดดเดี่ยวอ้างว้าง พลัดพรากเริ่มมาเยือน ทุกสิ่งที่อยู่กับธรรมชาติจะมีสภาพเหมือนเพื่อนแท้ หลังจากการบรรลุถึงเป้าหมายของชีวิตแต่ละครั้ง มักมีการพัฒนาการเกิดขึ้น ซึ่งเป็นอิทธิพลราศีกุมภ์

            สำหรับราศีมีน ซึ่งเป็นราศีสุดท้ายของจักรราศี เป็นราศีที่สร้างการสลายตัวให้กับธรรมชาติ อันเป็นจุดจบของวงรอบในธรรมชาติ หมายถึงการตาย ความเปล่าเปลี่ยวอย่างที่สุด ความสันโดษ อ้างว้าง ความวิเวกวังเวง ธรรมชาติของชีวิตและจักรราศีจึงมาถึงจุดสิ้นสุดที่ราศีมีน เพื่อรอการเกิดหรือเริ่มต้นใหม่ที่ราศีเมษ เป็นวัฏจักรเช่นนี้เรื่อยไป

            หากพิจารณากันให้ดีแล้ว จะเห็นว่าโลกเรานี้เปรียบเสมือนต้นไม้มหึมาต้นหนึ่งสรรพสิ่งทั้งหลายที่เวียนว่ายตายเกิดกันอยู่นี้ ก็ไม่ผิดอะไรกับใบไม้ใบเล็กๆที่ผลิออกมาตามฤดูกาล แล้วก็เหี่ยวแห้งล้มหายตายจาก เช่นเดียวกับใบไม้ตามฤดูกาลเป็นวัฏจักรเช่นนี้เรื่อยไปไม่มีที่สิ้นสุด

view
view